ปัจจุบันเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามามีส่วนช่วยลดภาระในการทำงานมากขึ้น เครื่องซักผ้าก็เหมือนกัน แต่ก่อนจะซักผ้าทีต้องเตรียมกะละมังหลายใบ ต้องนั่งซักนั่งล้างใช้เวลามากเลยทีเดียว แต่เดี๋ยวนี้แค่หอบผ้าลงเครื่องซักผ้ากดปุ่มการทำงาน เราก็ไปนั่งชิวๆดูทีวีหรือทำงานบ้านอย่างอื่นได้เลยค่ะ
แต่หลายท่านจะรู้ไหมว่าเครื่องชักผ้าก็ต้องการการดูแลและทำความสะอาดด้วย เนื่องจากคราบสกปรกจากเสื้อผ้า เศษผ้า เชื้อราต่างๆ ถ้าปล่อยไว้เครื่องซักผ้าที่ทำหน้าที่ทำความสะอาดเสื้อผ้าอาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคให้กับเราก็ได้ เช่นกับ ของเข้าของเครื่องซักตัวนี้ ที่แกะทำความสะอาด ซึ่งไม่คิดว่าจะเจอสกปรกแบบนี้ และได้แนะวิธีทำง่ายๆให้เราด้วย
ดำมาก
คราบเยอะสุด
สะอาดแล้ว
นอกจากวิธีข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหนึ่งวิธี คือ ผงฟู หรือ เบกกิ้งโซดา นำผงฟู หรือ เบกกิ้งโซดา ปริมาณ 1 ถ้วยตวง ใส่น้ำให้เต็มถัง (หรือเลือกระดับน้ำสูงสุด) ปั่นสัก 2-3 นาทีเพื่อให้ ผงฟู หรือ เบกกิ้งโซดา ละลาย แล้วหยุดเครื่องไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง หรือ ทิ้งไว้หนึ่งคืนกรณีที่ไม่ได้ล้างบ่อย เสร็จแล้วเปิดเครื่องทำงานปกติ (ซัก ล้าง ปั่นแห้ง) และเพื่อให้คราบต่างๆที่ ผงฟู หรือ เบกกิ้งโซดา ได้ทำปฏิกิริยาไว้หมดไปจากตัวถัง แล้วเปิดเดินเครื่อง (ซักโดยที่ไม่มีผ้า) อีก 1-2 ครั้ง
– เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า ให้ใส่เบกกิ้งโซดาหรือน้ำส้มสายชู ลงในช่องที่ใส่ผงซักฟอก แล้วเปิดเครื่องปกติ ปล่อยให้เครื่องเปล่าทำงาน ไปจนจบโปรแกรม โดยไม่ต้องใส่เสื้อผ้า
– เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ จะมีโปรแกรมล้างถัง ให้ใช้โปรแกรมล้างถังทุกเดือน หรืออย่างน้อย 3 เดือนต่อครั้ง เพื่อความสะอาดและช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้า
การทำความสะอาดเครื่องซักผ้านอกจากจะทำให้เครื่องซักผ้าดูน่าใช้มากขึ้น ยังหมดกังวลในเรื่องปัญหาเชื้อโรค เชื้อราต่างๆ ที่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เครื่องซักผ้ามีกลิ่นอับ แถมช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้า คุณพ่อบ้านแม่บ้านอย่าลืมเอาวิธีนี้ไปใช้กับเครื่องซักผ้าที่บ้านกันนะค่ะ
ขอขอบคุณที่มาจาก: Min Lm