จากข่าวที่คุณแม่รายหนึ่งได้ออกมาโพสต์ภาพลูกสาวที่ติดมือถือ เลยคิดแก้ปัญหาโดยการนำเอาอายแชโดว์ทาตาเหมือนหมีแพนด้า ทำให้ลูกตื่นมาเจอหน้าตัวเองแล้วร้องไห้ ซึ่งแม่ก็ได้ออกอุบายว่าถ้าเล่นมือถือมากๆ จะทำให้ตาเป็นสีดำ ซึ่งลูกก็เชื่อและไม่กล้าเล่นมือถืออีก ล่าสุดทางเพจ เลี้ยงลูกนอกบ้าน ได้ออกมาแนะพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
#ปัญหาอยู่ที่ผู้ใหญ่ไม่ใช่เด็ก
มีการแชร์ข่าววิธีการแก้การติดมือถือของเด็กๆ
ด้วยการแนะนำให้เอาอายแชร์โดวทารอบตาตอนเด็กหลับให้ดูน่ากลัว พอเด็กๆ ตื่นมาแล้วตกใจ ก็ให้บอกไปว่าเป็นจากการเล่นมือถือที่มากเกิน
วิธีการนี้กำลังเป็นที่นิยมในหมู่พ่อแม่
ทำไมเด็กติดมือถือ…
**ผู้ใหญ่หยิบยื่นให้ในวัยที่ยังไม่ควร
**ผู้ใหญ่ปล่อยให้เล่นไปแบบไม่เคยมีกฏ กติกา
**ไม่มีผู้ใหญ่พาไปทำอะไรที่สนุกกว่า
**ผู้ใหญ่กลัวเสียงร้องไห้ ไม่อยากขัดใจ กลัวลูกหลานไม่รัก
**ผู้ใหญ่เอามาฝึกนิสัย ให้กินข้าว ให้อาบน้ำ ให้นั่งนิ่งๆ
**ผู้ใหญ่รู้สึกสบาย… เพราะก็จะได้หันไปที่หน้าจอเหมือนๆ กัน
ปัญหาการติดหน้าจอของเด็กๆ
“เป็นปัญหาของผู้ใหญ่”
การโกหก หลอก ขู่ ทำให้เด็กๆหวาดกลัว เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
เพราะสุดท้ายพอลืมไปหรือหายกลัว เด็กก็กลับไปติดหน้าจอใหม่ เพราะปัญหาที่ผู้ใหญ่ ไม่เคยได้รับการแก้ไขหรือถูกมองเห็น

การใช้วิธีที่กล่าวมา…
เด็กหลายคน กลายเป็นเด็กหวาดระแวง หวาดกลัว ถดถอย งอแงง่าย จากความกลัวในสิ่งที่เผชิญ
ที่สำคัญ คือ เสียโอกาสเรียนรู้ที่จะอยู่กับกติกา ฝึกวินัย และฝึกการ “ควบคุมตัวเอง” ด้วยความเข้าใจในเหตุผล
เราอาจจะได้เด็กที่ไม่กล้าเล่นมือถือ (ในระยะสั้นๆ)
แต่เราอาจจะได้เด็กขี้กลัว งอแงง่าย ไปจนถึงกับ phobia
และที่เลวร้าย…
เด็กที่ “ไม่เชื่อถือผู้ใหญ่” ของตัวเอง
อย่าทำเลยนะคะ…
ปรับที่ “ตัวเอง” ช่วยลูกเรื่องการฝึกวินัย
อาจไม่ง่าย… แต่ยั่งยืนกว่าเยอะ
#หมอโอ๋เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน
ผู้อยากให้สื่อใหญ่ๆนำเสนอสิ่งที่ได้กลั่นกรองแล้ว… เพื่อเด็กๆ
จากความคิดเห็น

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
จากเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างมาก สำหรับบ้านไหนที่มีลูกติดเล่นมือถือก็ต้องแก้ปัญหาจากต้นเหตุก็คือตัวผู้ใหญ่เอง ฉะนั้นก็อย่าเล่นให้ลูกเห็นและค่อยๆพูดคุยและสอนลูกนะคะ
ขอขอบคุณที่มาจาก : เลี้ยงลูกนอกบ้าน