เชื่อว่าหลายๆท่านที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพก็คงจะเสียเวลาในการเดินทางไปมากในแต่ละวัน หากไม่มีรถส่วนตัวก็ต้องจ่ายค่าโดยสารไปทำงาน ขึ้นรถ ลงเรือ นั่งรถตู้ สองแถว หรือวินมอเตอร์ไซค์ กว่าจะถึงจุดหมายก็หมดไปหลายบาท ซ้ำระบบขนส่งก็ไม่ค่อยจะเอื้ออำนวยมากนัก หรือพูดง่ายๆว่า จ่ายแพงแต่ไม่มีคุณภาพ และไม่ครอบคลุม อย่างเรื่องราวที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Bussabong Wisetpholchai ได้ออกมาโพสต์แชร์เรื่องการเดินทางของตัวเอง ที่ต้องต่อรถหลายสาย ซ้ำยังจ่ายแพง โดยระบุรายละเอียดว่า
สองแถวในหมู่บ้านมาพระราม 2 ราคา 8 บาท
รถตู้พระราม 2 – อนุสาวรีย์ ราคา 33 บาท
มาต่อรถตู้อนุสาวรีย์-งามวงค์วานอีก 29 บาท
เพื่อไปต่อรถสองแถวเข้ากระทรวงอีก 7 บาท
เพื่อเดินอีก 500 เมตรถึง สนง.
ขากลับ
ค่าสองแถวในกระทรวงออกมาริมถนน 5 บาท
ค่ารถตู้งามวงค์วาน-พระราม 2 เป็นเงิน 60 บาท
รวม 1 วัน 140 บาท
โดยราคานี้เพิ่มจากปี 57 ที่ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 98 บาท หรือ 5 ปี เพิ่มขึ้นเกือบ 50 %
และทั้งหมดนี้ต้องออกจากบ้าน 5.50 น.เพื่อถึงที่ทำงาน 8.30 น. ใช้เวลา 2.40 ชม
อย่างไรก็ดีคุยกับคนที่นั่งข้างๆ ของเขาวันละ 200 !!!!
คำถามคือสำหรับคนตลาดล่างเช่นเรา
มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ไหม
อย่าลืมว่าคนที่มาหากินใน กทม.ส่วนใหญ่คือคนต่างจังหวัด ที่สิ้นหวังในราคาพืชผลเกษตร ได้รับผลกระทบจาก EEC ไม่เคยได้ดิบได้ดีจากนโยบายเอื้อนายทุน
ถ้าค่าเดินทางกลายเป็นค่าใช้จ่ายหลักในชีวิตในทุกเมื่อเชื่อวัน
แล้วจะให้คนจนเหลืออะไร
อย่าบอกให้ป้าช่วยตัวเองก่อนสิ
ขอโทษนะ กรูเดินจากพระราม 2 มานนทบุรีไม่ไหวโว้ย
หรือจะให้ขี่จักรยานมา
ออกจากบ้านสัก 5 นาทีก็คงได้ไปนอนอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ข้างถนนพระราม 2 หรือใต้รถสิบล้อ
เรามีระบบการปกครองที่มีตัวแทนมากินทรัพยากรส่วนที่เราต้องจ่ายคือภาษี
ก็เพื่อให้ชีวิตเราดีขึ้นใช่ไหม
หรือเราต้องเชื่อว่า
"ใครเป็นนายกก็เหมือนกันนั่นแหละ ก้มหน้าก้มตาทำมาหาแดรกไป"
อยากเชื้อเชิญชาว กทม ตลาดล่างเช่นป้าช่วย Post ค่าเดินทางในแต่ละวัน
เพื่อให้เห็นว่าชีวิตดีๆ ที่ลงตัวใน กทม นี้เป็นอย่างไร
ไพร่ฟ้าหน้าแห้งต้องเจออะไรบ้างในชีวิตเรา
จากความคิดเห็น

เรื่องนี้จะได้รับการแก้ไขเมื่อไหร่
เดือดร้อนกันทั่วหน้า

จากเรื่องราวนี้ก็มีชาวเน็ตหลายๆท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมกับแชร์เรื่องการเดินทางว่าลำบากไม่แพ้กัน และอยากจะเห็นผู้นำประเทศ พัฒนาเรื่องระบบการขนส่ง และปรับลดค่าโดยสารให้ถูกลงกว่านี้ ประชาชนจะได้ไม่เดือดร้อน
ขอขอบคุณที่มาจาก : Bussabong Wisetpholchai