สุดยอด ผักพื้นบ้านของไทย กลายเป็นสินค้าสร้างรายได้ของคนญี่ปุ่น

       สินค้า วัตถุดิบ และพืชผลทางการเกษตรจำนวนมากของไทย ที่เรามองเป็นของธรรมดา หาได้ง่ายๆตามท้องตลาดของไทย แต่บางครั้ง ของเหล่านั้นกลับกลายเป็นของหายาก และมีความต้องการสูงในต่างประเทศ ซึ่งคนไทยเองก็ไม่เคยใช้ช่องทางนี้สร้างรายได้เลย

       อย่างเช่นผักชี ผักพื้นบ้านของไทย ที่กลายเป็นแหล่งทำเงินของคนญี่ปุ่น เมื่อนำมันมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเฟซบุ๊กเพจ Anone Club ได้เผยเรื่องราวน่าสนใจ ระบุว่า

       "ของพื้นบ้านของไทย กลายเป็นแหล่งรายได้ของคนญี่ปุ่น รายงานโดย #พี่บัน ทุกวันจันทร์ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ของพื้นบ้านของไทย ก็กลับเหมือนทองคำในญี่ปุ่น มีครอบครัวหนึ่งใช้ของพื้นบ้านของไทยนั้นมาทำเป็นสินค้าแปรรูปต่าง ๆ

       ตู้หยอดเหรียญอยู่ในที่ห่างไกลเพียงตู้เดียว ที่เมืองยาชิโยะ จังหวัดชิบะ มันคืออะไร?

       ใส่ตู้หยอดเหรียญขาย มีรายได้บางวันได้ถึง 5 หมื่นเยน (ราว 1 หมื่น 7 พันบาท) เจ้าของตู้ขายของหยอดเหรียญยังบอกว่าเกินคาด คืออะไร? คลิกไปที่รูปภาพนะครับ เครดิต: テレ朝news"

      นี่แหละครับ ตู้หยอดเหรียญสินค้าที่เรียกได้ว่า มีกลิ่นแรงพิเศษ

      ถึงตู้จะห่างไกลผู้คน แต่ถ้าช่วงเสาร์อาทิตย์สินค้าบางตัวถึงขนาดขายหมดอยู่บ่อย ๆ

       ลูกค้าคนนี้บอกว่า "มาซื้อบ่อย ๆ ค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าขายอะไร พอมาดูแล้วถึงรู้ว่า… ตัวเองเป็นคนชอบ… อยู่แล้ว เลยลองซื้อดู"

      ในข่าวบอกว่า "ใช่แล้ว นี่คือตู้ขายผักชีแบบหยอดเหรียญ" แต่สำหรับคนไทยดูแล้วไม่รู้ว่าผักชีที่ตรงไหน ความจริงแล้วต้องบอกว่าเป็นสินค้าแปรรูปจากผักชีต่างหาก

 

      มาดูสินค้าที่ขายดีกว่า ซ้ายบน ขนมสโนว์บอลผักชี 400 เยน ขวาบน กราโนลา 550 เยน ซ้ายล่าง บัตเตอร์โรลผักชี 500 เยน ขวาล่างคุกกี้ผักชี 450 เยน

      และสินค้าที่ขายดีที่สุดคือ ผักชีเพสต์ ใส่กระปุก กระปุกละ 1300 เยน (400 กว่าบาท) ใช้ทาขนมปัง

       สตาฟของทีมทำข่าวแม้จะเป็นคนไม่ชอบผักชี แต่เมื่อลองกินดูแล้วบอกว่ารสนุ่ม กินง่าย

       แม่ลูกคู่นี้บอกว่า "ตัวเองชอบมาก แต่ลูกชายไม่ค่อยชอบ จึงเอามากินแค่อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง" (แค่นั้นเองจริง ๆ)

      นี่คือไร่ผักชี และที่เห็นไกล ๆ คนซ้ายคือเจ้าของตู้ขายผักชี

       เจ๊ผักชี เจ้าของตู้ขายผักชี ชื่อคุณทาชิกาวะ อายูมิ อายุ 47 ปี

       ช่วงโควิด ร้านอาหารที่เคยเอาผักชีไปส่ง ยอดขายผักชีลดลงมากกว่า 70%

       จึงคิดหาทางที่จะขายให้ผู้บริโภคโดยตรง โดยเปิดร้าน "ผักชีซิสเตอร์" เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว (2020

       และยังขายผ่านตู้ขายหยอดเหรียญตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา (ปี 2021)

       ตู้นี้เป็นที่ถูกอกถูกใจคอผักชีมาก วันไหนขายดีก็ขายได้ถึงวันละ 5 หมื่นเยนเลยที่เดียว เรียกว่าเกินคาด

      จนต้องระดมคนในครอบครัวมาช่วย ที่ไร่ผักชีก็มีคุณแม่ (คนซ้ายมือ) อายุ 68 ปี มาช่วย

      ส่วนน้องสาว (คนขวามือ) อายุ 39 ปีก็มาช่วยทำผักชีเพสต์ แถมด้วยเพื่อนของน้องสาว (คนกลาง) ก็ยังมาช่วยงานด้วย

      ปัญหาเดียวที่มีคือ คุณพ่อ อายุ 70 ปี เป็นคนเกลียดผักชีถึงขนาดมีผักชีตกอยู่นิดเดียวก็โมโหใส่

คลิ๊กเพื่อชมคลิป

       ยังมีอะไรอีกมากมาย ที่เป็นของไร้มูลค่าในไทย แต่กลับมีมูลค่าสูงมากในต่างประเทศ น่าจะเป็นช่องทางเพิ่มรายได้ให้กับคนไทยได้ในอนาคต

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : tkvariety.com, ขอขอบคุณที่มาจาก : Anone Club