เป็นใครก็คงซ้ำใจ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 มีการเผยเรื่องราวสุดชอกช้ำของครอบครัวหนึ่งในสิงคโปร์ ครอบครัวเผยว่าลูกสาวชื่นชอบอควาเรียมมาก ทางครอบครัวจึงตัดสินใจอยู่นาน 6 เดือน ที่จะพาเธอไปนอนที่ห้องพักสุดพิเศษที่เกาะเซนโตซา ในราคาคืนละ 2,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 47,000 บาท เพื่อเก็บความทรงจำที่น่าประทับใจในครั้งนี้
ทางครอบครัวได้จ่ายเงินเพิ่มอีก 360 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 8,400 บาท เพื่อจ้างช่างถ่ายภาพส่วนตัวไปด้วย จึงคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าที่ออกมาจะสวยงามและแฮปปี้แบบสุด ๆ
สิ่งที่ทางครอบครัวเจอกลับเป็นประสบการณ์ที่แย่สุด เผยว่าเริ่มมีปัญหาตั้งแต่แรก ช่างภาพมาสายถึง 30 นาที และทำตัวเงียบมาก ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับครอบครัว และดูไม่ค่อยจะสนใจในการถ่ายภาพให้พวกเธอสักเท่าไร แต่ทั้งหมดก็เป็นเหตุผลที่ครอบครัวพยายามทำใจยอมรับได้ จนกระทั่งได้เห็นผลงานภาพถ่าย
จากการถ่ายภาพในห้องพักอควาเรียมที่ถ่ายไปนานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ผลงานที่ได้จากช่างภาพรายนี้ทั้งมืดและองค์ประกอบภาพแย่มาก ราวกับไม่ใช่ฝีมือช่างภาพมืออาชีพ และความแตกต่างยิ่งเห็นได้ชัดเจน เมื่อเธอเปรียบเทียบกับภาพที่ถ่ายกันเองด้วยโทรศัพท์มือถือ เห็นชัดเจนว่ามันดูดีกว่ามาก
นอกจากนี้ เมื่อทางครอบครัวถามว่าทำไมภาพถึงมืดมากเช่นนั้น ช่างภาพรายดังกล่าวตอบว่า เพราะไม่ได้รับแจ้งให้นำไฟจากสตูดิโอไปด้วย ทั้งที่มีการตกลงกันล่วงหน้าว่าจะมีการนำไฟสตูดิโอมาใช้ เธอจึงถามต่อว่า ถ้าแบบนั้นช่วยปรับแสงให้ภาพสว่างขึ้นได้ไหม แต่ผลปรากฏว่าทางช่างภาพและบริษัทที่รับจ้างกลับเงียบหายไป แถมยังโดนบล็อกช่องทางการติดต่อ[ads]
หลังจากครอบครัวนำเรื่องราวมาโพสต์แชร์ผ่านทางโซเชียล ก็กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงและแชร์ไปสังคมออนไลน์ หลายคนเห็นแล้วทั้งประหลาดใจและเห็นใจครอบครัวดังกล่าว ทั้งยังตั้งคำถามว่าเป็นช่างภาพจริงหรือ ดูเหมือนว่าครอบครัวถูกหลอกลวงเสียมากกว่า
ขอขอบคุณที่มาจาก: Jacquelyn Ng