ช่วงว่างๆแบบนี้ชวนทำอาหารกินเองที่บ้านจ้า กับอาหารเวียดนาม ที่เมื่อไหร่รู้สึกอยากจะกิน ก็ต้องหามากินจนได้ นั่นก็คือ หมูต้มเค็มน้ำมะพร้าว ซึ่งหากมองผิวเผินภายนอก รับรองว่าคนไทยต้องบอกว่า นี่คือ หมูพะโล้ แน่นอน แต่ไม่ใช่นะคะ เพราะเมนูนี้ไม่มีเครื่องพะโล้แม้แต่นิดเดียว ไปชมวิธีการทำเลยดีกว่าค่ะ
หมูต้มเค็มน้ำมะพร้าว จะใช้หมู 3 ชั้น และไข่ เป็นหลัก เป็นอาหารที่ผูกพันกับชาวเวียดนามมายาวนาน ประวัติความเป็นมาของเมนูนี้ บางตำราก็บอกว่ามาจากอาหารจีน เพราะมีความคล้ายคลึงและมีคำว่า Tàu ซึ่งแปลว่า จีน แต่บางตำราก็บอกว่ามาจากชาวประมงเวียดนาม เพราะมีคำว่า Tàu ซึ่งแปลว่า เรือ ที่สมัยโบราณชาวประมงจะออกจับปลา ก็ต้องเตรียมเสบียงอาหารคือ หมูต้มเค็มน้ำมะพร้าว ที่สามารถเก็บได้หลายวัน แต่บางตำราก็บอกว่าเป็นอาหารพื้นเมืองของชาวเวียดนามใต้ เพราะคำว่า Tàu แปลว่า น้ำกร่อย ซึ่งคล้ายกับรสชาติของหมูต้มเค็มน้ำมะพร้าว คือเค็มๆ หวานๆ
ส่วนผสม
1. หมูสามชั้น แล้วแต่ชอบ แต่ของผมวันนี้ใช้ 1/2 กิโล เป็นเนื้ตรงตะโพกเพราะมันไม่เยอะ (บางคนอาจจะไม่ชอบ เพราะบอกว่าเนื้อส่วนนี้จะแข็ง)
2. กระเทียม 5-6 กลีบ สับละเอียด
3. หอมแดง 2-3 หัว สับละเอียด
4. พริกไทยดำป่น 1 ช้อนชา
5. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
6. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
8. เกลือเม็ด 1/2 ช้อนโต๊ะ
นำส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกเคล้าให้ทั่ว หมักไว้ราว 1/2 ชั่วโมง #หมายเหตุ หากน้ำมะพร้าวหวาน ให้ลดปริมาณน้ำตาลเหลือ 1 ช้อนโต๊ะ
ใส่น้ำราว 4 ช้อนโต๊ะลงในหม้อ และตามด้วยน้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ คนให้ละลายและเคี่ยวให้เป็นคาราเมลสีน้ำตาล #ระวังน้ำตาลไหม้ แต่ของผมใช้น้ำตาลทรายแดงเลยออกมาเป็นสีน้ำตาลโดยยังไม่เป็นคาราเมล
หลังจากน้ำตาลเป็นคาราเมลแล้ว
1. ใส่หมูสามชั้นที่หมักลงไปในหม้อ ตามด้วยน้ำที่หมักหมูลงไปรวน #ซากกระเทียม หอมแดง บางคนเลือกที่จะเอาทิ้ง แต่ผมใส่ลงไปต้มเลย
2. รวนหมูเสร็จก็ใส่น้ำมะพร้าว (อ่อน) ลงไปต้ม ต้มจนเดือดแล้วช้อนฟอง จากนั้นปิดฝา(เผยอฝาเล็กน้อย)ต้มด้วยไฟอ่อนๆไปเรื่อยๆ ราว 1/2 ชั่วโมง ระหว่างต้มหากน้ำงวดและหมูยังไม่เปื่อย ก็เติมน้ำร้อนลงไป (แม่ครัวที่สอนผมบอกนี่คือเคล็ดลับ ต้มเสร็จวางทิ้งไว้จะไม่บูดง่าย และอร่อยกว่าเติมน้ำเย็น)
3. เมื่อหมูเริ่มเปื่อย (หนังหมูจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลขุ่นๆ) ก็ใส่ไข่ที่เตรียมไว้ลงไปต้ม[ads]
4. ใส่ไข่ลงไปต้มราว 15 นาที ชิมและปรุงรสตามชอบ แนะนำอย่าปรุงรสด้วยนำปลา เพราะจะทำให้เปรี้ยว ผมปรุงรสด้วยเกลือ และซีอิ๊วขาว แล้วช่วงนี้หากจะใส่พริกสดลงไปต้มทั้งดอกก็เหมาะที่สุด
หมูต้มเค็มน้ำมะพร้าว เค็ม หวานหอมจากน้ำมะพร้าวและเครื่องเทศ อร่อยครับ โดยไม่ต้องพึ่งผงชูรสหรือผงปรุงรส ส่วนสีน้ำตาลได้จากน้ำตาลทรายแดง (หรือน้ำตาลทรายขาวเคี่ยวจนเป็นคาราเมลสีน้ำตาล) พริกขี้หนูสด ผมเลือกที่จะใส่ทีหลัง ก่อนจะกินก็ใช้ช้อนบี้ในชามให้แหลกแล้วคลุกเคล้าให้ทั่ว
ทุกวันนี้เมนู หมูต้มเค็มน้ำมะพร้าว ก็หากินง่าย ร้านอาหารทุกร้านต้องมีหมูต้มเค็มน้ำมะพร้าวไว้บริการ เหมือนร้านข้าวแกงไทยยังไงก็ต้องมีหมู-ไข่พะโล้ ยังไงก็ยังงั้น และวิธีการทำก็ง่าย ไม่ยุ่งยาก ถ้าใครอยากลองทดสอบฝีมือหมูต้มเค็มน้ำมะพร้าวของตัวเองดู ก็ต้องไปลองทำแล้วจ้า สูตรครบ ดูแล้วไม่น่าจะยากเกินไป หวังว่าจะเป็นประโยชน์มากแก่แม่บ้านนะคะ
ขอขอบคุณที่มาจาก: Prapas Lamphuoc