เรียกได้ว่า ผู้โดยสารหลายๆ ท่านที่มีบ้านอยู่แถวชานเมือง คงจะรอคอยรถไฟสายสีแดงกันแน่นอน วันนี้เราเลยอยากจะขอนำเอาสรุปเรื่องรถไฟสายสีแดงแบบเบสิค เข้าใจง่าย ที่ทางเพจ ทีมนั่งรถไฟกับนายแฮมมึน ได้ออกมาโพสต์สรุปเรื่องนี้ระบุว่า
สรุปเรื่องรถไฟสายสีแดงแบบเบสิค เข้าใจง่าย ในโพสต์เดียว (ภาพประกอบโดย ข่าวและภาพกิจกรรมกระทรวงคมนาคม)
ด้วยความที่ภาพมันถูกปล่อยมาแบบกะทันหัน เช้ามาก ยังนอนไถโทรศัพท์อยู่แล้วเห็น ก็เลยยังทำคอนเทนต์ไม่ทันกับความตื่นเต้นที่เกิดขึ้น (เชื่อเหอะ ตาสว่างเด้งจากเตียงกันไปหลายคนเพราะเรื่องนี้เหมือนกัน) แล้วอีกอย่างคือหลายคนยังรู้จักรถไฟสายสีแดงกันยังไม่ถึงกึ๋น ยังมีคนเข้าใจว่าตรงดอนเมืองสร้างทางด่วนอยู่เลย
เอาล่ะครับ มาทำความรู้จักกับรถไฟสายสีแดงเพื่อใหม่กันเลยครับ
1. เป็นระบบรถไฟชานเมือง (Commuter) รอบไม่ถี่ สถานีห่างในระยะเดินแล้วหอบ ความเร็วที่ใช้สูงกว่า 80 กม./ชม. มีผู้ให้บริการเดินรถคือ รฟฟท. (SRTET) ซึ่งไม่ใช่รถไฟแบบ Metro เหมือน BTS MRT คนละประเภทกันนะ อย่าเอามาปนกัน
2. เส้นทาง มีศูนย์กลางที่สถานีกลางบางซื่อแล้วพุ่งออกไป 4 ทิศ
สายสีแดงเข้ม
2.1 ทิศเหนือ : บางซื่อ – รังสิต – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบส่วนต่อขยายที่บ้านภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ตามแผนแม่บท
2.2 ทิศใต้ : บางซื่อ – หัวลำโพง – มหาชัย และจบส่วนต่อขยายที่ปากท่อ จ.ราชบุรี ตามแผนแม่บท
สายสีแดงอ่อน
2.3 ทิศตะวันตก : บางซื่อ – ตลิ่งชัน – ศาลายา จบส่วนต่อขยายที่นครปฐม ตามแผนแม่บท
2.4 ทางแยกทิศตะวันตก : ตลิ่งชัน – ศิริราช
2.5 ทิศตะวันออก : บางซื่อ – มักกะสัน – หัวหมาก จบส่วนต่อขยายที่ฉะเชิงเทรา ตามแผนแม่บท
ทางวิ่งบางสายจะกว้างมากเพราะมีรถไฟปู๊นๆ วิ่งด้วย เช่นช่วงบางซื่อ – ดอนเมือง
3. แนวเส้นทางขนานไปตามทางรถไฟเดิมของ รฟท.
4. ถ้าจะให้พูดง่ายๆ ระบบรถไฟสายสีแดงคือการอัพเกรดรถไฟชานเมืองของ รฟท. ให้เป็นรถไฟฟ้า และเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนถ่ายจากระบบดีเซลมาเป็นระบบรถไฟฟ้าสำหรับรถไฟทางไกลต่อไป (MAIN IDEA มันอยู่ตรงนี้!!)
5. โครงสร้างทางเป็นทางยกระดับ ระดับดิน และต่ำกว่าระดับดินแบบคลองแห้ง (นึกภาพไม่ออกให้นึกถึงคลองประปาที่ไม่มีน้ำในคลองแต่มีทางรถไฟ)
6. เส้นทางที่สร้างแล้ว และพร้อมเปิดในปี 2564 คือ บางซื่อ -รังสิต และบางซื่อ – ตลิ่งชัน (แต่คุณอาคมให้ข่าวว่า ปลาย 63 เลยยัง งงๆ อยู่)
7. รถไฟ 1 ขบวนมี 2 แบบ คือ
7.1 เซ็ต 4 ตู้ ใช้วิ่งเส้นสีแดงอ่อน
7.2 เซ็ต 6 ตู้ ใช้วิ่งเส้นสีแดงเข้ม
ตัวรถผลิตจาก Hitachi ประเทศญี่ปุ่น
8. การรับไฟฟ้าใช้ระบบสายส่งเหนือหัว (OCS) แบบเดียวกับ Airport Link และรถไฟทางไกลทั่วโลก วิ่งบนทางกว้าง 1 เมตร เท่ารถไฟปกติ ใช้ระบบอาณัติสัญญาณแบบ ETCS (European Train Control System)
9. ความเร็ว มี 3 ส่วน
9.1 ความเร็วสูงสุดของตัวรถ ได้ 160 กม./ชม.
9.2 ความเร็วที่ให้บริการ ในเมืองวิ่ง 120 นอกเมืองวิ่ง 140 อย่าถามว่าตรงไหนในเมืองนอกเมืองนี่ก็ยังไม่รู้ว่าเค้ากำหนดยังไง
10. สถานีเชื่อมต่อกับสายอื่นๆ บอกหมดทั้งปัจจุบันและอนาคต

เชื่อมแน่ๆ แล้ว
บางซื่อ – MRT สายสีน้ำเงิน บางซื่อ
หลักสี่ – Monorail สายสีชมพู สถานีหลักสี่
ดอนเมือง – ท่าอากาศยานดอนเมือง
บางซ่อน – MRT สายสีม่วง สถานีบางซ่อน
จรัลสนิทวงศ์ – MRT สายสีน้ำเงิน บางขุนนนท์
อนาคต
บางเขน – Monorail สายสีน้ำตาล
ยมราช – MRT สายสีส้ม สถานียมราช
ยศเส – สายสีเขียว สถานียศเส
หัวลำโพง – MRT สายสีน้ำเงิน สถานีหัวลำโพง
พญาไท – BTS/ARL พญาไท
มักกะสัน – MRT เพชรบุรี ARL มักกะสัน
หัวหมาก – Monorail สายสีเหลืองหัวหมาก (หรือยังใช้ชื่อพัฒนาการอยู่?)
ตลิ่งชัน – สายสีเขียว ตลิ่งชัน
ศิริราช – MRT สายสีส้ม ศิริราช
11. ทำไมสร้างนาน? เพราะเส้นทางสายนี้มันไม่ใช่แค่รถไฟฟ้า แต่มันมีรถไฟปู๊นๆ ร่วมในเส้นทางด้วย ทั้งสถานี ทั้งทาง ทั้งแนวทางวิ่ง มันเลยแตกต่างกับรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ที่เห็น คือถ้าพูดแบบกำปั้นทุบดินคือเค้าอัพเกรดทางรถไฟเดิมให้มันดีขึ้น รองรับการเดินรถไฟฟ้า และความถี่รถมากขึ้น ทำสถานีให้ใหญ่ขึ้นเพราะสถานีกรุงเทพหัวลำโพงมันขยายไม่ได้แล้ว นั่นแหละจ้ะ มันเลยดูอลังๆ หน่อย เพราะมันไม่ใช่แบบ ARL มักกะสันที่รับแค่รถไฟฟ้า แต่นี่คือรถไฟไปเชียงใหม่ หาดใหญ่ สุไหงโกลก หนองคาย อุบล มันก็ต้องมาใช้สถานีและโครงสร้างทางพวกนี้ รถไฟไทยมันกำลังพัฒนาแล้วโหวยยยยยยย แฟนคลับรถไฟถูกใจสิ่งนี้
ประมาณนี้ก่อนนะครับ ยังไงถ้ามีข้อมูลเยอะกว่านี้จะทำคอนเทนต์ให้อ่านกันแบบไม่ไฟลนก้น
สวัสดีวันเสาร์ครับ
ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับการคมนาคมทางรางที่ต้องการจะพัฒนาให้มีความทันสมัย ทัดเทียมนานาอารยประเทศ และเปิดให้บริการให้ผู้โดยสารได้รับด้วยความสะดวก และคล่องตัวมากขึ้น อีกไม่นานเราคงจะได้ใช้บริการกันแล้ว
ขอขอบคุณที่มาจาก : ทีมนั่งรถไฟกับนายแฮมมึน