จากอดีต ผจก.ธนาคารสู่เถ้าแก่ร้านขายของชำในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานี ตอนแรกคิดที่จะเปิดเซเว่นแต่ต้องยกเลิกเพราะไม่อยากดูแลพนักงานร้านเยอะ เลยตัดสินใจเป็นนายตัวเองลงมือทำเอง
โดยเจ้าตัวเล่าว่า…สอบถามได้ครับ ผมลาออกจาก ผจก.ธนาคารแห่งหนึ่งปี 2553 ต้องการเปิดเซเว่น ทุกอย่างผ่านหมด แต่ผมยกเลิกเองเพราะเรื่องเวลาการเปิดปิดและพนักงานร้าน (ถ้าเล่ายาว) ผมตัดสินใจเปิดร้านเองเลยครับ วันแรกขายได้ 830 บาท จนถึงวันนี้อยู่ได้สบายครับ
เข้าร่วมโครงการของรัฐทุกอย่างครับ
ภาษียื่นออนไลน์ฝ่ายกฎหมายสรรพกรแนะนำครับยื่นออนไลน์ทุกปี ปีละสองครับ ภ.ง.ด.94และ90/91
รูปสินค้าที่ลงวันนี้เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกสินค้าและเปิดร้าน
สินค้าตามรูปครับ
หมู่บ้านใหญ่ครับมีเซเว่น มีร้านส่งสองร้านใหญ่ ร้านค้าขนาดเล็กแบบผม 14 ร้านครับ
สอบถามติชมได้ครับแต่มาตอบช้าอย่าโกรธนะครับมาตอบแน่ครับ
รูปลงได้ 80 สินค้าเล็กๆไม่ได้อัพลงมานะครับ
สินค้าตามฤดูกาล
เฉาก๋วยเต็งหนึ่งเสริมหักทุนแล้ว200-300บาท/วันครับ
รับโอนเงินทุกธนาคาร/เคาน์เตอร์เซอร์วิสรับจ่ายเกือบทุกอย่าง
เครื่องดื่มมีครบ
อดีต ผจก.ธนาคาร ลาออกมาเป็นเถ้าแก่ร้านขายของชำ
อดีต ผจก.ธนาคาร ลาออกมาเป็นเถ้าแก่ร้านขายของชำ
ยาสามัญประจำบ้าน
อดีต ผจก.ธนาคาร ลาออกมาเป็นเถ้าแก่ร้านขายของชำ
อดีต ผจก.ธนาคาร ลาออกมาเป็นเถ้าแก่ร้านขายของชำ
ร้านใหญ่มาก
อดีต ผจก.ธนาคาร ลาออกมาเป็นเถ้าแก่ร้านขายของชำ
เครื่องดื่ม
น้ำมันพืช
เครื่องครัว
มีครบทุกอย่าง
ฤดูฝนขายเสื้อกันฝนเตรียมไว้เลย
ปีใหม่ห่อของขวัญ และขายของขวัญที่เด็กซื้อไปจับฉลาก
ต้องช่างสังเกตเหตุการณ์ปัจจุบัน
ใช้ทุนเฉพาะในร้านหมุนเองในตัวเลยครับ
ลูกชิ้นปิ้งหน้าร้านเสริมได้หลังหักทุน500-700/วันครับ
อดีต ผจก.ธนาคารยังบอกอีกว่า "เริ่มจากร้านเล็กๆ ก่อนเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ทำร้านเองดีที่สุดทุกอย่างเราบริหารจัดการเอง ลงสินค้าน้อยๆก่อน อย่างละ3-4 ชิ้น แต่ให้จำนวนสินค้าเยอะๆ ค่อยๆขยาย ถ้ารวมในร้านตอนนี้ประเมินราคา 700,000-900,000 กว่าครับ"
เรียบเรียงโดย : tkvariety.com ขอขอบคุณที่มา : Keng Krech